PCOS และประจำเดือนไม่ปกติ

แพทย์แผนจีนกับการรักษาภาวะมีบุตรยากจาก PCOS

ยินดีด้วยนะครับ คนไข้หญิงอายุ 31 ปี มีบุตรยากจากภาวะ PCOS (PolyCystic Ovary Syndrome) หรือภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง
ผู้หญิงทั่วไปทุกๆเดือนจะมีไข่โตเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 ซม. เพียง 1 ใบหลุดออกมาจากรังไข่ แล้วไปปฏิสนธิกับอสุจิทำให้ตั้งครรภ์ 🤰🏼

แต่คนที่เป็น PCOS นั้นไข่มักจะโตไม่ถึง 2 ซม. โดยมากมักไม่เกิน 1 ซม. แต่จะมีหลายใบ บางคนอาจมีเยอะเป็น 10 ใบในรังไข่แต่ละข้างด้วย เมื่อไข่ใหญ่ไม่ถึง 2 ซม.จึงไม่สามารถตั้งครรภ์ได้นั่นเองครับ

โดยมากโรคนี้มักเกิดจากความเครียด การนอนดึก พักผ่อนน้อย กินแป้ง กินหวาน และขาดการออกกำลังกาย (นี่มันชั้นนี่แก!🤣) ด้วยเหตุนี้ผู้หญิงจำนวนไม่น้อยประจำเดือนเริ่มแกว่งหลังจากเรียนจบแล้วเข้าสู่วัยทำงานนั่นเอง 👩🏻‍💻

แนวทางการรักษามีบุตรยากจาก PCOS นั้นเหมือนกันทั้งทางแผนปัจจุบันและแผนจีนครับ ในเมื่อไข่มันไม่โต ก็เลี้ยงจนมันโตราว 2 ซม. แล้วจึงทำให้ไข่ตกมาเจออสุจิได้ นำไปสู่การตั้งครรภ์

แพทย์แผนปัจจุบันจะให้ยากระตุ้นไข่ไม่ว่าจะกินหรือจะฉีด เมื่อไข่โตได้ที่แล้ว ก็อาจจะฉีดยาให้ไข่ตก แล้วนับวันให้ยุ่งกันเองหรือฉีดเชื้อ IUI เสริม

ข้อเสียคือเนื่องจากรังไข่มีไข่ใบเล็กๆ จำนวนมากอยู่แล้ว บางทีกระตุ้นไข่แล้วอาจทำให้ไข่โตหลายใบเกินไป คนไข้จะมีอาการบวมน้ำ แน่นท้องจากภาวะ OHSS (Ovarian Hyper Stimulate Syndrome) หรือการกระตุ้นจนได้ไข่เยอะไป ซึ่งไม่ควรจะดำเนินการตั้งครรภ์ต่อเพราะอาจเกิดการท้องแฝด และมีความเสี่ยงต่อชีวิตในการคลอดบุตรต่อไป หรือบางคนคุณหมอชวนพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสด้วยการเก็บไข่เพื่อทำเด็กหลอดแก้วซะเลย (แน่นอนค่ารักษาจากหลักพันหมื่น ก็กลายเป็นหลักแสนแบบงงๆ) แต่บางครั้งรังไข่ก็ไม่ตอบสนองต่อยากระตุ้น ไม่ว่าจะกินหรือฉีดยังไงไข่ก็ไม่โตนะครับ

☯️ส่วนแพทย์แผนจีนก็จะมองที่สมดุลของคนไข้แต่ละท่านก่อนครับ ว่าคุณขาดเหลืออะไร เราก็จะไปปรับตรงนั้น เมื่อร่างกายสมดุลแล้ว รังไข่ก็จะเริ่มทำงานตามปกติ คือได้ไข่โต 2 ซม.เพียง 1 ใบ แพทย์จีนจะไม่มีความเสี่ยงในเรื่องกระตุ้นเกินไป แต่ก็อาจจะต้องใช้เวลาในการปรับประจำเดือนครับ ☯️

คนไข้ PCOS บางท่านอาจจะมีน้ำตาลในเลือดสูง หรือเริ่มมีภาวะ Insulin resistance ร่างกายย่อยน้ำตาลได้ไม่ดี อันนำไปสู่การเป็นเบาหวานในอนาคตได้ แพทย์แผนปัจจุบันจึงนิยมให้ยารักษาเบาหวาน (พวก Metformin หรือ Glucophage) ก็ไม่ต้องงงไป นอกจากจะช่วยลดน้ำตาล ปรับระบบสารคัดหลั่งในร่างกาย ยังช่วยลดน้ำหนักได้ด้วย ซึ่งล้วนเป็นผลดีต่อ PCOS กินยาแล้วอาจจะมีปัญหาในระบบทางเดินอาหารหน่อย เช่น ท้องอืด ถ่ายเหลว ถือเป็นเรื่องปกติ ให้กินตอนกินข้าวไปเลยจะลดอาการได้ครับ

หากคนไข้ PCOS คนใดน้ำหนักมาก คุณควรจะลดน้ำหนัก มีงานวิจัยบอกว่าถ้าคุณลดได้ 10% ของน้ำหนักตัว ประจำเดือนจะเริ่มกลับมาเป็นปกติมากขึ้น (เช่น หนัก 80 กิโล ก็ควรลดให้ได้สัก 8 กิโล)

การออกกำลังกายก็สำคัญนะครับ เป็นสิ่งแรกๆ ที่หมอแนะนำ แต่เป็นสิ่งสุดท้ายที่คนไข้จะทำ 555555555 🤣 ทำได้ทำเหอะครับ ไม่ต้องมากมายอะไร เดินเร็วๆสักครึ่งชั่วโมง อาทิตย์ละ3-4 วันก็ได้ แล้วไม่ต้องเป็นกีฬาที่ต้องเคลื่อนไหวหนักอะไรนะครับ โยคะก็ได้ 🧘🏻‍♀️

ในเคสนี้หลังรักษาไป ไข่เริ่มโตและตกได้เอง ประจำเดือนของคนไข้ก็เริ่มมาสม่ำเสมอขึ้น จนสามารถตั้งครรภ์ได้โดยธรรมชาติครับ ยินดีด้วย🎉🎉🎉