FSH สูง ช็อคโกแลตซีสต์ก็เป็น เนื้องอกมดลูกก็มี ย้ายตัวอ่อนไป 5 รอบก็ยังไม่ติด ทำยังไงดี?

ถูกถามบ่อย ๆ ครับว่าทำเด็กหลอดแก้วสามารถทานยาจีนได้หรือไม่

หลายท่านรวมถึงคุณหมอแผนปัจจุบันมักกังวลว่าการทานยาจีนจะไปตีกับยาหรือฮอร์โมนที่ใช้ตอนกระตุ้นไข่ ทำให้ผลออกมาไม่ดีหรือเปล่า

แท้จริงแล้วมีการทำวิจัยว่าการทานยาจีนและฝังเข็มมีส่วนช่วยเพิ่มคุณภาพและปริมาณของการกระตุ้นไข่ ช่วยทำให้ผนังหนาสมบูรณ์เหมาะแก่การใส่ตัวอ่อน เพื่อผลสุดท้ายคือเพิ่มโอกาสความสำเร็จของการทำเด็กหลอดแก้ว 

แน่นอนว่าไม่ใช่ยาจีนที่ซื้อหากันเองตามท้องตลาด แต่ต้องเป็นยาที่จ่ายโดยแพทย์จีนที่มีใบประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีนเท่านั้น เพราะยาจีนตัวเดียวกันนั้นไม่ได้เหมาะกับทุกคน แพทย์จีนต้องตรวจร่างกายของแต่ละท่านก่อนถึงจ่ายยาให้ได้ครับ

มาฟังว่าที่คุณแม่เขาเล่ากันครับ

“ดิฉันอายุ 39 ปีเข้าออกคลินิกผู้มีบุตรยากมา 5 ปี ไม่เคยประสบความสำเร็จ ทุกครั้งที่ไม่ประสบความสำเร็จคือใส่ตัวอ่อนแล้วไม่ท้อง และแทบทุกครั้งตัวอ่อนคือระยะบลาสโตซิส จนครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่คิดว่าจะทำเพราะว่าตัวอ่อนเหลืออยู่ 2 ตัวแต่เป็นตัวอ่อนเกรดสวยแค่ตัวเดียว

ก่อนที่จะทำครั้งนี้ นั่งคิดว่าที่ผ่านมามีความผิดพลาดอะไรที่เรายังไม่ได้ทำ หรือไม่ได้แก้ไข แน่นอนคือฉันมีอาการภูมิแพ้กำเริบทุกครั้งที่ใส่ตัวอ่อน มาครั้งนี้สัญญากับตัวเองว่าจะรักษาโรคนี้ให้หายก่อนใส่ตัวอ่อน จึงจะใส่ตัวอ่อนที่เหลือ

เริ่มต้นด้วยการหาหมอภูมิแพ้ที่เข้าใจว่าเราจะต้องไปใส่ตัวอ่อน และรับการักษามาเรื่อย ๆ นอกจากนั้นก็ออกกำลังกายโดยวิ่งวันเว้นวัน จนวิ่งได้ 10 km ไม่เหนื่อย เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์

และสิ่งสุดท้ายที่คิดว่ามาถึงขั้นนี้แล้วทำให้ครบเลยละกันคือการไปหาหมอแมะ ฝังเข็ม ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามหลีกเลี่ยงมาโดยตลอดด้วยความเข้าใจว่าต้องเอายามาต้มกินเอง เหม็น ทนรสชาติไม่ได้ แถมหมอแมะที่คนไปหาเรื่องนี้คือคิวยาวและราคาแพงมาก ทำอย่างไรที่จะกำจัดตัวแปรที่ไม่ชอบออกไป

ฉันเริ่มหาข้อมูลจาก Internet ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหมอชื่อดัง ต้มยากิน คิวยาว พวกนี้เป็นตัวเลือกที่เราตัดทิ้งอันแรก เราต้องการหมอที่เข้าใจ ตามใจเรา รักษาเราในแบบที่เราต้องการ จนพบคลินิกหนึ่งชื่อ หยินหยางคลินิก

ดูจากประวัติของหมอแล้วดีมาก ไฟแรง ถึงยังอายุไม่เยอะแต่เรามั่นใจในความไฟแรงของหมอ เราจึงเข้ารับการรักษาที่นี่ค่ะ อาการที่เราปรึกษาหมอเชนคือ เรามีอาการหนาวสั่นแต่เหงื่อแตกชวงกลางดึกก่อนมีประจำเดือน มีอาการปวดหัวรุนแรง และปวดท้องเวลาที่มีประจำเดือน หมอให้เรากินยาสี่ตัว คือยาแคปซูล และยาชงเป็นผง ๆ ชงกับน้ำร้อนมีรสชาติหวานนิด ๆ กินไม่ยากค่ะ ทำให้ความรู้สึกในการกินยาหมอแมะดีขึ้นมาก และนอกจากนั้นเราทำการฝังเข็มกับคุณหมอ 1 คอส

ทำทุกอาทิตย์เป็นเวลาประมาณสามเดือน รู้สึกว่าร่างกายโอเค ไม่หนาวสั่น ไม่ปวดหัวหรือปวดท้องอีกแล้ว แต่ในช่วงที่เข้ารับการรักษาค่อนข้างมีวินัยในสิ่งที่คุณหมอห้ามทานนะคะ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ จึงเริ่มเข้า Process การทำกิฟท์ใส่ตัวอ่อนอีกครั้งค่ะ โดยก่อนไปใส่ตัวอ่อน 1 วันได้ไปหาหมอเชนเพื่อฝังเข็มก่อนใส่ตัวอ่อนด้วยค่ะ และครั้งนี้ฉันท้อง ครั้งแรกในชีวิตที่ได้สัมผัสความเป็นคนท้อง ดีใจมากค่ะ ขอบคุณคุณหมอเชนมาก ๆ ที่ช่วยรักษา”

ทุกวันนี้การทำเด็กหลอดแก้วดูเป็นเรื่องที่ “แสน” จะธรรมดาไปแล้วนะครับ กล่าวคือต้องกำเงิน “แสน” ไปทำจนเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อมีค่าใช้จ่ายที่สูงขนาดนี้ เราควรจะเตรียมตัวอย่างไรก่อนไหม

คุณแม่ท่านนี้ 4 ปีที่ผ่านมานี้กระตุ้นไข่ทำ ICSI ไป 4 รอบ โดยได้ย้ายตัวอ่อนไปถึง 5 รอบ! แต่ไม่เคยตั้งครรภ์เลย ล่าสุดเหลือตัวอ่อนแช่แข็ง 2 ตัวสุดท้าย จึงมาเตรียมร่างกายก่อนจะย้ายตัวอ่อนครับ (ถ้าการกระตุ้นไข่และย้ายตัวอ่อนแต่ละครั้งใช้เงินเป็นแสน เคสนี้ก็ครึ่งล้านละครับ)

คนไข้มีประวัติเคยผ่าช็อกโกแลตซีสต์มาเป็นสิบปี ทำให้เนื้อรังไข่บอบช้ำ กระตุ้นไข่จึงได้ไม่เยอะ ล่าสุด FSH ก็สูงขึ้นมาเป็น 12 แล้ว ( FSH เป็นค่าที่บ่งบอกว่ารังไข่เริ่มเสื่อมลง เวลาทำเด็กหลอดแก้วหมอมักจะไม่อยากให้เกิน 10 ก่อนการกระตุ้นไข่) และมีเนื้องอกในกล้ามเนื้อมดลูกอีกต่างหาก

เคสที่มีประวัติทั้งช็อกโกแลตซีสต์กับเนื้องอกมดลูกนั้นไม่ควรที่จะกินแต่ยาบำรุงท่าเดียว จำเป็นที่จะต้องป้องกันไม่ให้ก้อนเหล่านี้โตขึ้นระหว่างที่เรารักษากันอยู่ และเนื่องจากอายุเริ่มเยอะขึ้น รังไข่ก็เริ่มเสื่อม แนวทางการรักษาก็ต้องทั้งบำรุงรังไข่ ทั้งป้องกันก้อนซีสต์ต่าง ๆ ไปด้วยกันจึงจะค่อนข้างปลอดภัยครับ

หลังจากรักษากันราวครึ่งปีก็ได้ฤกษ์ไปย้ายตัวอ่อน 2 ตัวสุดท้ายพอดี ผนังมดลูกหนา 9.6 มม.สวยงามครับ ไม่มีซีสต์กลับมา เนื้องอกก็ไม่โตขึ้น แล้วก็แจ้งข่าวดีมาเร็ว ๆ นี้เอง ยินดีกับว่าที่คุณแม่ด้วยนะครับ